ถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองไม่ว่าจะอยู่ในรูปน้ำเต้าหู้
หรือนำไปต้มสุกแล้วนำมาใส่เป็นเครื่องแบบนี้
คุณประโยชน์และสารอาหารในถั่วเหลืองก็ยังครบถ้วนสมบูรณ์ดี
ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนที่สูงเทียบเท่าเนื้อสัตว์ วิตามินสารพัดชนิด เกลือแร่
กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ไฟเบอร์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส
และไขมันชนิดไม่อิ่มตัว 2. ลูกเดือย ลูกเดือยมีฤทธิ์เป็นยาเย็นช่วยบำรุงกำลัง
บำรุงปอด ตับ ไต ม้าม มีสรรพคุณทางด้านขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไข้
แก้ท้องเสีย หล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ปัญหาทางเดินหายใจ
ไขข้อกระดูก บรรเทาอาการเหน็บชา แก้ชักกระตุก ลดอาการบวมน้ำ
รักษาอาการปอดอ่อนแอและเป็นเลือด รักษาฝีที่ลำไส้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ 3. เม็ดแมงลัก ใครที่อยากลดความอ้วน
อาจดื่มน้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลักก็ได้
เนื่องจากเม็ดแมงลักเป็นสมุนไพรที่ช่วยขับคอเลสเตอรอลไม่ดีออกจากร่างกาย
ช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้าลง เป็นยาระบายอ่อน ๆ ชนิดหนึ่ง
อีกทั้งคุณสมบัติพองตัวได้ของเม็ดแมงลักยังช่วยให้รู้สึกอิ่ม
ที่สำคัญเม็ดแมงลักยังปราศจากคอเลสเตอรอลอีกด้วยนะ 4. แปะก๊วย สมุนไพรจากเมืองจีนชนิดนี้นิยมนำมาใส่เป็นเครื่องน้ำเต้าหู้ด้วยเช่นกัน
โดยแปะก๊วยสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันเซลล์จากอนุมูลอิสระ
ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย มีวิตามินและแร่ธาตุสูง แคลอรีต่ำ บำรุงสมอง
เสริมสมรรถภาพทางเพศ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการ PMS
ในผู้หญิงได้ด้วยล่ะค่ะสาว ๆ 5.
มะขาม : สรรพคุณทางตำราสมุนไพรไทย – สุขภาพ ฟิตเนส ลดน้ำหนัก อาหารเสริม – Guestpost สาระดีๆ มีมาแบ่งปันกัน
ข้อมูลสมุนไพร ประโยชน์และสรรพคุณของ มะขาม
ชื่อสมุนไพร มะขาม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tamarindus indica L.
ชื่อวงศ์ LEGUMINOSAE (FABACEAE) – CAESALPINIOIDEAE
ชื่อพ้อง ไม่มี
ชื่ออังกฤษ Indian date, Tamarind
ชื่อท้องถิ่น ตะลูบ, ม่องโคล้ง, มอดแล, ส่ามอเกล, หมากแกง, อำเปียล
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ยืนต้น สูง 15-25 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อยรูปขอบขนาน กว้าง 5-8 มิลลิเมตร ยาว 1-1. 5 เซนติเมตร ดอกเป็นช่อ ออกที่ซอกใบและปลายกิ่ง กลีบดอกสีเหลือง มีลายสีม่วงแดง ผลเป็นฝัก มีเนื้อหุ้มเมล็ด สีน้ำตาล ฉ่ำน้ำ
ส่วนที่ใช้เป็นยาและสรรพคุณ
- ส่วนเมล็ด รักษาอาการท้องเสีย ขับพยาธิตัวกลม
- ส่วนเนื้อ รักษาอาการท้องผูก
สารสำคัญที่ออกฤทธิ์
แทนนินในเมล็ด (1-6) มีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้แก้อาการท้องเสีย (7) ส่วนในเนื้อมะขามมีกรดทาทาริก (8-18) ซึ่งช่วยระบายท้อง (7)
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
5. 1 ฤทธิ์ขับพยาธิ - ส่วนเมล็ด
เมล็ดมะขามมีฤทธิ์ฆ่าตัวอ่อนของพยาธิตัวกลม (19)
5. 2 ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย - ส่วนเนื้อมะขาม
สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในหลอดทดลองที่เป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง ได้แก่ Bacillus subtilis (20, 21), Escherichia coli และ Salmonella typhi (20) แต่สารสกัด ด้วยคลอโรฟอร์ม (20) และสารสกัดด้วยน้ำ (22) มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อดังกล่าวอย่างอ่อน (20)
5.
3 กรัม - โปรตีน 23. 8 กรัม - ไขมัน 1. 6 กรัม - คาร์โบไฮเดรต 61. 8 กรัม - กากใยอาหาร 4. 6 กรัม - สารอนินทรีย์ (Ash) 3. 5 กรัม - แคลเซียม 57 มิลลิกรัม - ฟอสฟอรัส 479 มิลลิกรัม - ธาตุเหล็ก 16. 5 มิลลิกรัม - ไธอะมิน 0. 19 มิลลิกรัม - ไรโบฟลาวิน 0. 12 มิลลิกรัม - ไนอะซิน 1. 5 มิลลิกรัม แต่หากนำถั่วดำปริมาณ 100 กรัม ไปปรุงสุกด้วยการคั่ว จะได้สารอาหารเพิ่มมาอีก 2 อย่างอันได้แก่ - เบต้าแคโรทีน 5 ไมโครกรัม - วิตามิน A รวม 1 ไมโครกรัม
ประโยชน์ของถั่วดำ มากล้ำไปด้วยสรรพคุณดี ๆ 1. ปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร และน้ำตาลในเลือด จากที่เห็นว่าถั่วดำเป็นแหล่งโปรตีน เส้นใยอาหาร และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ดีหลายชนิด ถั่วดำจึงมีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี และยังช่วยสร้างสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ให้เพิ่มหรือลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วย 2.
- บราวนี่ถั่วดำไร้แป้ง ขนมหวานแต่ไม่อ้วน คนลดน้ำหนักมีเฮ - โดรายากิไส้ถั่วดำ ไส้แน่นแป้งนุ่มหวานน้อยอร่อยเต็มคำ - 12 สูตรแกงบวด ขนมไทยหอมกะทิหลากหลายความอร่อย อ๊ะ! แต่ทั้งนี้ก็ขอฝากไว้นิดนึงว่า ถั่วดำก็มีข้อจำกัดในการรับประทานอยู่บางอย่าง ซึ่งก็ควรต้องระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของเราด้วยค่ะ
ข้อควรระวังในการกินถั่วดำ 1. ต้องปรุงสุกก่อนกิน ไม่ควรกินถั่วดำที่ไม่สุก หรือสุกไม่เต็มที่ เพราะที่เปลือกของถั่วดำจะมีกรดไฟติก ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสี และฟอสฟอรัส โดยหากร่างกายได้รับสารนี้เข้าไป ก็จะไม่สามารถดูดซึมสารอาหารดังกล่าวได้ตามปกติ และอาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติในร่างกายได้ อย่างเช่น มีความผิดปกติของเม็ดเลือด เป็นต้น ดังนั้นก่อนรับประทานถั่วดำควรต้องแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืนแล้วนำไปต้มหรือปรุงให้สุกเสียก่อน 2. คนที่มีอาการแพ้โปรตีนควรต้องระวังถั่วดำด้วย ในคนที่มีอาการแพ้โปรตีน โดยกินถั่วลิสงแล้วแพ้ กินนมแล้วเกิดอาการแพ้ ก็อาจจะต้องระแวงไว้ก่อนว่ากินถั่วดำแล้วอาจจะแพ้ได้เช่นกัน ดังนั้นหากจะลองกินถั่วดำอาจต้องลองกินทีละนิด เพื่อสังเกตอาการแพ้ของตัวเอง 3.
น้ำเต้าหู้ ประโยชน์เน้น ๆ เด่นที่เครื่อง
แหล่งรวมวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบีรวม
ไนอาซิน รวมทั้งวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินดี
และวิตามินซีในปริมาณเล็กน้อย
แต่ก็ถือว่าเพียงดื่มน้ำเต้าหู้แค่ถุงเดียวก็กวาดเรียบทุกวิตามินเลยล่ะ
อีกทั้งใครชอบดื่มน้ำเต้าหู้ทุกวัน ผิวพรรณและร่างกายจะแจ่มใส
เพราะมีวิตามินเหล่านี้คอยช่วยบำรุงร่างกายอีกด้วยนะ 5. บำรุงสมอง เพิ่มความจำ น้ำเต้าหู้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่น
ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน แคลเซียม ฟอสฟอรัส
จึงช่วยบำรุงทั้งร่างกาย บำรุงสมอง และช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำได้ 6.
ทาง Nappi มี ดีลพิเศษ น้ำหัวปลีบำรุงครรภ์ กระตุ้นน้ำนม แบรนด์ Mommy Booster มาให้คุณแม่ Nappi ด้วยนะคะ สั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติมทักไลน์ได้เลยค่ะ??????
เจตมูลเพลิงขาว : สรรพคุณสมุนไพรตามตำรายาไทย – สุขภาพ ฟิตเนส ลดน้ำหนัก อาหารเสริม – Guestpost สาระดีๆ มีมาแบ่งปันกัน
- โก ฐ น้ํา เต้า สรรพคุณ คือ
- ขายล้อแม็กบีเอ็มขอบ 17ใช้มือเดียวยางเปลี่ยนที่บีควิก(มีใบรับประกันพร้อมใบเสร็จ) - Truck2Hand.com
- Google chromecast ultra 4k ราคา ล่าสุด
- เหรียญเจริญพรบน หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ปี 57 เนื้อทองแดงลงยา 莲扎论喷(上) 龙普添 瓦拉行莱 57 年ร้านเอ้ คนรักพระ [天哪我爱]:: ศูนย์พระเครื่องพระเอเซีย 亚洲佛牌网站
- จำหน่าย แถบตรวจน้ำตาล แผ่นตรวจน้ำตาล Accu chek performa ราคาถูก
- The walking dead season 4 พากย์ไทย
ถั่วดํา ประโยชน์ของถั่วดํา อาหารต้านมะเร็ง
ข้อมูลสมุนไพร ประโยชน์และสรรพคุณของ เจตมูลเพลิงขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์: Plumbago zeylanica L.
ชื่อสามัญ:
วงศ์: PLUMBAGINACEAE
ชื่ออื่น: ตอชุวา, ตั้งชูอ้วย (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ปิดปิวขาว (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้พุ่มเตี้ยหรือไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 1-3 เมตร กิ่งก้านมักทอดยาว ใบรูปไข่ ยาว 3-13 ซม. ปลายใบแหลมยาว ตอนปลายเป็นติ่ง โคนในรูปลิ่มหรือมน ใบบาง ช่อดอกแบบช่อกระจะเชิงลด ดอกจำนวนมาก แกนกลางและก้านช่อดอกมีต่อมไร้ก้าน (เจตมูลเพลิงแดงไม่มี) ช่อดอกยาวได้ประมาณ 15 ซม. ก้านช่อยาว 1. 5-2 ซม. ใบประดับรูปไข่ ยาว 0. 4-0. 8 ซม. ใบประดับย่อยรูปแถบ ยาวประมาณ 0. 2 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ยาวประมาณ 1 ซม. มีต่อมหนาแน่น กลีบดอกสีขาวหรือสีฟ้าอ่อน หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 2 ซม. กลีบดอกรูปไข่กลับหรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ยาวประมาณ 0. 7 ซม. ปลายแหลมหรือเป็นติ่ง อับเรณูสีน้ำเงิน ยาวประมาณ 0.
กินถั่วดำมากไปอาจเกิดก๊าซในกระเพาะได้ ในถั่วดำมีคาร์โบไฮเดรตชนิดที่เรียกว่าโอลิโกแซกคาร์ไรด์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในกระบวนการย่อยอาหารได้ และหากร่างกายมีเจ้าตัวนี้สะสมอยู่เยอะในลำไส้ ก็จะเปลี่ยนเป็นก๊าซมีเทน ทำให้เกิดอาการอืดท้อง และร่างกายอาจระบายก๊าซมีเทนออกมาด้วยการผายลมหรือการเรอนั่นเองค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก, กองโภชนาการ กรมอนามัย DRERICZ The Doctor Oz Show organicfacts medicalnewstoday
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
- คอน โด ลุ ม พิ นี ศรีนครินทร์